อุทัยธานนี นั้นมีหนึ่งในที่เที่ยวสำคัญของจังหวัด และทรงคุณค่ามากๆ สำหรับชาวอุทัยธานี นั่นคือ วัดอุโปสถาราม หรือที่ชาวบ้านบริเวณนี้เรียกขานกันด้วยชื่อดั้งเดิมว่า วัดโบสถ์มโนรมย์ นั่นเอง และ วัดดัง อุทัยธานี แห่งนี้จะมีความสวยงามขนาดไหน ตามไปดูกันได้เลยครับ
วัดอุโปสถาราม จังหวัดอุทัยธานี
วัดอุโปสถาราม คือวัดเก่าแก่ริมลำน้ำสะแกกรัง หากเดินมาจากตลาดสดเทศบาล ก็จะมีสะพานข้ามแม่น้ำเพื่อมายังวัด ซึ่งภายในวัดนี้จะมี จิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ และพระวิหาร ที่มีภาพเขียนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่สวยงามวิจิตรอย่างมากอยู่ด้วยครับ
ประวัติและความเป็นมาของวัด
เรื่องราวเริ่มต้นของวัดโบสถ์นั้นย้อนกลับไปได้ไกลถึงปีพ.ศ. 2324 เลยครับ วัดตั้งอยู่บนเกาะเทโพ ริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง กระทั่ง ในปี พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 5 ท่านทรงเสด็จประพาสเมืองอุทัยธานีมาทางลำน้ำสะแกกรัง เหล่าชาวเมืองอุทัยธานีจึงได้ร่วมกันสร้างแพโบสถ์น้ำเพื่อเอาไว้ใช้เป็นแพรับเสด็จ และยังได้ร่วมกันจัดสร้างพระหล่อเงิน ซึ่งเป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์เพื่อถวายท่าน ในหลวงรัชกาลที่ 5 พระองค์ ก็ทรงรับ และพระราชทานคืนให้แก่ชาวเมืองเก็บไว้เพื่อสักการบูชาที่วัด อุโปสถาราม นั่นเองครับ
จวบจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเสด็จประพาส และเยี่ยมเยือนหัวเมืองฝ่ายเหนืออีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2449 และพระองค์ยังได้ทรงพระราชทางสิ่งของต่าง ๆ ไว้ให้ที่วัดอีกมากมาย อาทิเช่น ย่ามสักหลาด บาตรทองเหลือง บาตรฝาประดับมุก ตะเกียง และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันสิ่งของเหล่านี้ยังสามารถหาชมได้อยู่ ซึ่งทางวัดได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
ความน่าสนใจของวัด
สำหรับภายใน “วัด อุโปสถาราม” ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วไปเที่ยวกันเองนะจ๊ะเมื่อถึงวัด อุโปสถารามแล้วพอจอดรถแล้วควรจะแวะกราบบูชาขอพรองค์พระพุทธรูปที่ชาวบ้านชาวเมืองอุทัยธานีเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ก่อนเป็นจุดเริ่มต้น
1. พระอุโบสถ
“ตัวพระอุโบสถ” ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ถูกล้อมรอบด้วยใบเสมาหินสีแดงส่วนด้านหลังจะเป็นพระเจดีย์ ส่วนภายในพระอุโบสถได้ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่เรียกว่า “พระเจ้าห้าพระองค์” ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ กราบขอพรกันได้ทุกเรื่องครับ และมีภาพจิตรกรรมทั้ง 4 ด้าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติยาวติดต่อกัน โดยดำเนินเรื่องตามที่ปรากฏในปฐมสมโพธิกถา
2. พระวิหาร
ให้ยืนด้านหน้าวิหารก่อนชมความสวยงามของฝาผนังเขียนเล่าเรื่องพุทธประวัติสมัยพุทธกาล ส่วนหน้าบันเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑดูโดดเด่นมาก ๆ ครับ ภายในวิหารประดิษฐาน “องค์พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ” พุทธลักษณะงดงามกราบบูชาขอพรได้เช่นกันโดยเฉพาะขอเรื่องให้ญาติพี่น้องรักกันสามัคคีกัน เรื่องหน้าที่การงานหรือสอบผ่านเข้ารับราชการเป็นต้น
3. เจดีย์สามสมัย
เจดีย์สามสมัย เป็นเจดีย์รูปแบบต่างกัน สร้างอยู่บนฐานไพทีเดียวกันกับวิหารและอุโบสถตั้งเรียงเป็นแนวเดียวกันอยู่หลังพระวิหารและพระอุโบสถ
เจดีย์ หลังวิหาร : นั้นเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ความสูงเท่ากับวิหาร ฐานเจดีย์ประกอบไปด้วยเขียงถัดขึ้นไปเป็นฐานบัว ตรงบัวหงาย ซึ่งทำลวดลายปูนปั้นออกมาเป็นรูปกลีบบัวประดับอยู่โดยรอบ ตรงกลางเจดีย์จะเป็นฐานเขียงซ้อนกัน 2 ชั้น ถัดขึ้นไปก็จะเป็นรูปบัวคว่ำ ท้องไม้ บัวปากระฆัง และองค์ระฆังทรงกลม ส่วนยอดเจดีย์ประกอบด้วย บัลลังก์ เสาหาน บัวฝาละมี ปล้องไฉน บัวกลุ่มเถา ปลีลูกแก้ว ปลียอด และเม็ดน้ำค้าง
เจดีย์องค์กลางอยู่ระหว่างพระวิหารและอุโบสถ : เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ส่วนฐานนั้นประกอบด้วยหน้ากระดานล่าง บัวคว่ำ ท้องไม้ ฐานเขียงรองรับฐานสิงห์เอาไว้อีกชั้นหนึ่ง ส่วนตัวเรือนธาตุทำเป็นซุ้มจระนำยื่นออกมาทั้ง 4 ทิศ ภายในซุ้มได้ประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ โดยทางทิศเหนือและทิศตะวันออกประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทางด้านทิศตะวันตกจะเป็นพระพุทธรูปปางถวายเนตร และทิศใต้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ เหนือซุ้มจระนำขึ้นไปจะมียอดเจดีย์ประดับอยู่ ต่อจากเรือนธาตุเป็นบัลลังก์รองรับบัวกลุ่มถัดขึ้นไปเป็นองค์ระฆังย่อไม้ยี่สิบ ส่วนยอดของเจดีย์เป็นบัวกลุ่ม เถาปลี ลูกแก้ว ปลียอดและเม็ดน้ำค้าง
เจดีย์ด้านหลังพระอุโบสถ : นั้นเป็นเจดีย์ทรงระฆังเหลี่ยม ส่วนฐานจะประกอบด้วยฐานบัว 8 เหลี่ยม ซ้อนกันจำนวน 3 ชั้น ส่วนกลางของเจดีย์จะเป็นทรงระฆัง 8 เหลี่ยม ฉาบด้วยปูนเรียบ ส่วนยอดเจดีย์นั้นประกอบด้วยบัลลังก์ ก้านฉัตร บัวฝาละมี ปล้องไฉน บัวกลุ่ม ปลียอด ครับ
นอกจากนั้น ยังมี สะพานข้ามแม่น้ำสะแกกรัง ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวชุมชนลุ่มน้ำสะแกกรัง สวยที่สุดอีกจุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ อีกทั้งบริเวณริมแม่น้ำเรายังได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมแม่น้ำสะแกกรัง ที่ยังคงดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิม มีการปลูกผัก ปลูกใบเตยกลางน้ำ ที่ปัจจุบันหาดูที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่แล้ว และถ้าหากใครมาตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ก็จะได้เห็นความงามในช่วงที่สวยที่สุดที่หาดูที่อื่นไม่ได้นอกจากที่วัด อุโปสถารามนี้ด้วย
ข้อมูลของวัด ผาทั่ง จังหวัดอุทัยธานี
- สถานที่ตั้ง : ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
- เปิดให้เข้าชม : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น.
หากใครมีโอกาสเดินทางไปอุทัยธานี นอกจากชื่นชมและซื้อของต่างๆ (เช่น ยาลม และขนมปังสังขยา) ในตลาด ซึ่งในวันเสาร์ปิดถนนเพื่อให้คนเดินที่ตรอกโรงยา และข้ามสะพานไปหาความสุขจากการทำบุญที่ วัดอุโปสถาราม อีกฟากหนึ่ง จึงจะได้ชื่อว่าถึงสะแกกรัง สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ