ทริปสายบุญ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ที่เที่ยวสายบุญเมืองลับแล กับตำนานศักดิ์สิทธิ์ “บ้วนพระโอษฐ์”

วันนี้ huaysod เราจะพาเพื่อนๆ ขึ้นเหนือไปเยี่ยมชม วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และบรรยากาศอันร่มรื่น ชาวบ้านมักเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดพระแท่น” ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ที่ชื่อว่า “เขาทอง” ทางทิศตะวันตกของชุมชนโบราณเมืองทุ่งยั้ง เมืองแห่งตำนานลับแล เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณวัด จะพบกับความสงบร่มเย็น จากต้นไม้ใหญ่น้อยที่ปลูกไว้ทั่วพื้นที่ แยกเป็นสัดส่วนอย่างสวยงาม เหมาะแก่การมานั่งสมาธิ หรือเดินเล่นชื่นชมความเงียบสงบของธรรมชาติ

ทำความรู้จัก วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์

วัดพระแท่นศิลาอาสน์

วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ชื่อเดิมของวัดคือ “วัดมหาธาตุ” แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง และสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษคือ “พระแท่นศิลาอาสน์” แท่นหินศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับนั่งเจริญภาวนา และแสดงธรรมโปรดสัตว์หลังตรัสรู้แล้ว ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อพระแท่นศิลาอาสน์ ทางจังหวัดอุตรดิตถ์จึงได้นำเอกลักษณ์ของพระแท่นแห่งนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งใน ตราประจำจังหวัด เพื่อแสดงถึงความสำคัญทั้งทางศาสนาและประวัติศาสตร์

วัดพระแท่นศิลาอาสน์

ปัจจุบัน วัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี สังกัด ธรรมยุตินิกาย เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของวัดในระดับชาติ สำหรับ “พระแท่นศิลาอาสน์” นั้น จัดว่าเป็น “พุทธเจดีย์” เช่นเดียวกับ “พระแท่นดงรัง” ที่เชื่อกันว่า พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้ เคยเสด็จมาประทับนั่งเจริญภาวนาที่นี่ เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธศาสนาในเชิงลึก สะท้อนถึงความเก่าแก่ และความศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการสืบทอดมายาวนาน

เปิดตำนานศักดิ์สิทธิ์ บ้วนพระโอษฐ์

ณ พระแท่นศิลาอาสน์ วัดดังอุตรดิตถ์ หนึ่งในปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคเหนือ ยังมีอีกหนึ่งตำนานสำคัญที่คนรุ่นหลังหลายคนอาจไม่เคยได้ยิน กับตำนาน “บ้วนพระโอษฐ์” ซึ่งเคยเป็นองค์ประกอบศักดิ์สิทธิ์คู่กับพระแท่นมาแต่ครั้งโบราณ เล่ากันว่า ณ ที่แห่งนี้ พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาบำเพ็ญภัตตกิจ บนแท่นหินที่พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์เคยใช้เจริญบารมี หลังฉันเสร็จ ได้มีมหายักษ์ผู้หนึ่งนำน้ำในคนโทแก้วมาถวาย แต่ด้วยความไม่ระวัง เขาเผลอเหยียบมดง่ามตายไปถึง 4 ตัว พระองค์จึงตรัสให้ศีลแก่มหายักษ์ผู้นั้น ด้วยเมตตาอันยิ่งใหญ่ จนเขาเกิดความเลื่อมใสอย่างลึกซึ้ง ถึงกับถอดเขี้ยวแก้วถวายแด่พระพุทธเจ้า ก่อนลากลับไป

วัดพระแท่นศิลาอาสน์

จากนั้น พระองค์จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 2,000 ปี มดง่ามทั้งสี่ตนนั้นจะกลับมาเกิดเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อฟื้นฟูและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองอีกครั้ง แล้วจึงทรงบ้วนพระโอษฐ์ลงใน กระโถนศิลาแลง ที่ตั้งอยู่ใกล้พระแท่นศิลาอาสน์ สถานที่แห่งนี้ต่อมาจึงถูกขนานนามว่า “บ้วนพระโอษฐ์” จากการศึกษาของอาจารย์ธีระวัฒน์ แสนคำ พบว่าในอดีต วิหารพระแท่นเคยมีมุขยื่นออกไปทางทิศเหนือ เรียกว่า “มุขบ้วนพระโอษฐ์” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานบ้วนพระโอษฐ์ไว้อย่างสง่างาม แต่หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2451 ส่วนมุขนี้ก็ถูกช่างผู้บูรณะตัดออกไป ปัจจุบันกระโถนศิลาแลงที่เชื่อกันว่าเป็นที่รองรับบ้วนพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า กลับถูกวางทิ้งไว้ข้างๆ ซุ้มประตูพิพิธภัณฑ์ของวัด ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร

จุดไฮไลท์ที่สำคัญของวัด

พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาด ภายในจัดแสดงเครื่องมือจับสัตว์น้ำโบราณ เรือพาย เครื่องครัวแบบดั้งเดิม เช่น ถ้วย ชาม หม้อ ไห มีด เครื่องจักสาน ตลอดจนเครื่องมือทำมาหากินและของเล่นพื้นบ้านต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านและชาววังในสมัยก่อนอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีสิ่งของที่ทรงคุณค่าอย่างเครื่องสังฆโลกสมัยสุโขทัย ธรรมาสน์โบราณ พระพุทธรูปไม้แกะสลัก พระพุทธรูปในศิลปะสุโขทัยและอยุธยา รวมไปถึงต้นโพธิ์โบราณที่แผ่ร่มเงาให้แก่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มาอย่างยาวนาน

วัดพระแท่นศิลาอาสน์

ไม่เพียงแค่ด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ วัดแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลับแลและชาวอุตรดิตถ์ โดยทุกๆ ปีในช่วงวันมาฆบูชา หรือเดือน 3 จะมีการจัด งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งถือเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ภายในงานจะมีกิจกรรมทางศาสนา การแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น และตลาดโบราณที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สร้างบรรยากาศของงานบุญแบบโบราณที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและศรัทธา

วัด พระแท่นศิลาอาสน์ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรแวะมาสักครั้งในชีวิต นอกจากจะได้สักการะ พระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับนั่งบำเพ็ญภาวนาแล้ว ยังมี “บ้วนพระโอษฐ์” ที่เกี่ยวโยงกับตำนานลึกซึ้งทางพระพุทธศาสนา ซึ่งหาชมได้ยากในประเทศไทย หากใครได้เดินทางมาวัดนี้ รับรองว่ามาทริปนี้ ได้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ ได้ความรู้ และยังได้ ภาพสวยๆ กลับไปเต็มเมมโมรีแน่นอน ประทับใจแบบจัดเต็มทุกมิติ สำหรับวันนี้เราขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า หวยสด ว่าจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ อย่าลืมติดตามกันนะ สนใจสมัครสมาชิกเว็บหวยสด

Scroll to Top