วัดปงยางคก เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสวยงามและมีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ในอำเภอห้างฉัตร และมีอายุยาวนานถึง 1,315 ปี ทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของภาคเหนือ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นแหล่งสักการะสงบเงียบ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทาง ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการศึกษาความเป็นมาและศิลปะโบราณ หากชาว หวยสด คนไหนอยากทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมา และความน่าสนใจภายในวัด ตามเรามาดูกันเลย
เปิดตำนาน วัดปงยางคก จังหวัดลำปาง

วัดปงยงคก เป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านศาสนา และประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำปาง โดยมีตำนานที่เล่าขานกันมาหลายร้อยปีเกี่ยวกับการก่อสร้างวัด และเหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ตามตำนานกล่าวว่าในปี พ.ศ. 1253 เจ้าแม่จามเทวี กษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย (ลำพูน) ได้เสด็จมาเยี่ยมพระเจ้าอนันตยศ กษัตริย์แห่งเขลางค์นคร (ลำปาง) ขณะที่พระเจ้าอนันตยศกำลังจะเสด็จนำฉัตรทอง ไปบูชาพระธาตุลำปางหลวง ช้างพระที่นั่งของพระเจ้าอนันตยศได้หมอบตัวลง พร้อมกับชูงวงในท่าคารวะอย่างนอบน้อม การกระทำนี้สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับเจ้าแม่จามเทวี และพระนางจึงตัดสินใจพักทัพในบริเวณนั้น

หลังจากนั้น เจ้าแม่จามเทวีทรงอธิษฐานว่า ถ้าสถานที่แห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นเพื่อยืนยันให้เห็น ด้วยความตั้งใจ พระนางได้พูดคำอธิษฐานเสร็จสิ้นไม่นาน ก็เกิดปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ขึ้น แสงฉัพพรรณรังสีแห่งพระบรมสารีริกธาตุ พวยพุ่งขึ้นจากจอมปลวกแห่งหนึ่งในบริเวณนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้เจ้าแม่จามเทวีเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏขึ้น
พระนางจึงทรงสร้าง พระวิหารจามเทวี ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 15 เมตร ครอบพระธาตุที่ปรากฏขึ้นจากจอมปลวก พร้อมทั้งทรงปลูก ต้นศรีมหาโพธิ์ ที่นำมาจากลังกาไว้ในบริเวณนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์และการตรัสรู้ ในเวลาต่อมา ชื่อของสถานที่ที่แรกเริ่มเรียกว่า “ปงช้างนบ” หลังจากนั้นได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น “ปงยางคก” ตามการพูดเรียกของชาวบ้านจนกลายเป็นชื่อที่ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน
จุดไฮไลท์ที่น่าสนใจ
จุดท่องเที่ยวแห่งนี้ มีไฮไลท์หลายอย่างที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเยี่ยมชม หนึ่งในจุดเด่นที่น่าจดจำที่สุดคือ มณฑปพระประธาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ท้ายพระวิหาร มณฑปนี้มีลักษณะทรงปราสาท หรือที่เรียกกันว่า โขงพระเจ้า เป็นองค์พระที่มีลวดลายประดับบนปูนปั้น ที่สวยงามตามแบบล้านนา ที่สำคัญคือ มณฑปนี้มีอายุยาวนานถึง 1,315 ปี ส่วน พระวิหาร ที่มีความเก่าแก่ก็มีอายุถึง 283 ปี นอกจากนี้ภายในพระวิหารยังมี จิตรกรรม ที่ประดับบนไม้และเสาแทบทุกต้น จนแทบไม่มีช่องว่างเหลืออยู่เลย ซึ่งจิตรกรรมเหล่านี้ถือเป็นงานศิลปะที่บ่งบอกถึงความงดงาม และความละเอียดอ่อนในแบบศิลปะล้านนา

ต่อมาพระวิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2539 ภายใต้การดูแลของ กรมศิลปากร ซึ่งในการบูรณะครั้งนี้ได้รักษารูปแบบเดิมไว้ทั้งหมด รวมถึงการอนุรักษ์จิตรกรรมที่มีคุณค่าภายในพระวิหารเอาไว้ด้วย ปัจจุบัน พระวิหารจามเทวี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถาน และได้รับการยกย่องให้เป็น สถาปัตยกรรมด้านอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในปี พ.ศ. 2543

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ กู่จ้างนบ ซึ่งสร้างขึ้นหลังจากพระวิหารจามเทวีเสร็จสิ้น โดยเป็นรูป ช้างไม้ขนาดใหญ่ ที่นั่งหมอบลงพร้อมกับชูงวงที่มีดอกบัวขึ้นเหนือหัวในท่าคารวะ โดยหันหน้าไปทางพระวิหารเจ้าแม่จามเทวี
การเดินทางไปยังวัด

- จากตัวเมืองลำปาง: วัดปงยางคกตั้งอยู่ใน อำเภอห้างฉัตร ซึ่งห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 20-30 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร เพียงแค่ขับรถไปตามถนนหมายเลข 1 (ถนนสายลำปาง-เชียงใหม่) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1037 (ถนนเข้าอำเภอห้างฉัตร) และขับต่อไปประมาณ 5-7 กิโลเมตร จะถึงวัด
- ที่จอดรถ: วัดมีพื้นที่สำหรับจอดรถกว้างขวาง จึงสะดวกในการนำรถยนต์มาจอด
หากใครกำลังมองหาสถานที่ เที่ยวไหว้พระ ที่ไม่เพียงแต่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเต็มไปด้วยความงดงามทางศิลปะและประวัติศาสตร์ วัดปงยงคก ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเลย วัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ที่คุณสามารถมาสักการะพระประธาน และสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบแล้ว ยังเต็มไปด้วย เอกลักษณ์ด้านศิลปะล้านนา ที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมของชาวล้านนาในทุกๆ มุม สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ สามารถรอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ